ลูกสาวหนีไปนอนกับยาย

จากที่เคยรอป๋ากลับบ้านอุ่มขึ้นมานอนกลายเป็นไม่ยอมมานอนด้วยละ ต้องปรับตัว แอบไปศึกษาข้อมูลมาละ จะว่าไปอันนี้ก็เป็นความรู้สึกแบบใหม่ที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน …

Test

Uploading. Go go go two wheeler Alinta!

ประสบการณ์สุดท้ายกำหนดความทรงจำ (หลัก)

หนังสือ Thinking Fast and Slow ประเด็นที่น่าสนใจหลายอย่างหนึ่งในนั้น คือ ประสบการณ์สุดท้ายมักจะเป็นกำหนดความทรงจำหลักที่มีต่อเหตุการณ์นั้น ๆ เช่น ไปเที่ยวทะเล 3 วัน 2 คืนสนุกสุด ๆ ตั้งแต่ออกจากบ้านแล้วดันอาหารเป็นพิษวันสุดท้ายทริปนั้นจะกลายเป็น “ทริปอ้วกแตก” ของทุก ๆ คนในทันทีแทนที่จะเป็นความทรงดี ๆ อันอื่น (แน่นอนว่าไม่ได้ลืมไปเลย แต่ “ทริปอ้วกแตก” จะกลับมาก่อนแน่นอน

ในทางกลับกันถ้าตอนจบเป็นเรื่องปรกติอย่างที่ควรจะเป็น เช่น ขับรถถึงบ้านอย่างปลอดภัยไม่ดึกไม่มีอะไรผิดคาด ความทรงจำก็จะกระจายอยู่ในเหตุการณ์ต่าง ๆ ความลำดับความสำคัญอย่างที่ควรจะเป็น แต่มักจะนำไปสู่การลืมไปว่าไปทำอะไรมาบ้าง หรือหลาย ๆ ครั้งลืมไปเลยว่าเคยไปมาด้วยหรือ

ช่วงหลายปีที่ผ่านมามี “ทริป x” อยู่ 2-3 อัน เช่น

1) “ทริปกระเป๋าตังหาย” ปีใหม่ 2019 ที่จบไม่สวยเพราะกระเป๋าตังดันหล่นหลายไปแบบไม่รู้ตัวจนไปรอหน้าเกตเตรียมขึ้นเครื่องกลับบ้านแล้ว แต่ยังไงดีที่มีเวลาเหลือพอที่จะขอ จนท กลับออกไปหาโดยนั่งรถย้อนทิศกลับไปยังจุดคืนรถ แต่ปรากฏว่าไม่เจอก็แล้วก็ลนลานหาไปเรื่อย ๆ แล้วปรากฏว่าคนขับรถ shuttle สงสัยว่าทำไมลุกลนเลยมาถามว่าเป็นกระเป๋าเราหรือป่าว เราก็สามารถตอบบรรยายได้ถูกเลยได้คืนมาหมด ยกเว้นเงินโดนเอาไปหมดเลย แน่นอนว่าเป็นความทรงจำที่เกือบจะดีแล้วแต่ก็ไม่ดีอยู่ดีเพราะวิธีการพูดของคนขับก็ทำให้รู้ได้ว่าคนเอาเงินไปก็คือคนขับนั่นแหละ ออสเตรเลีย เลยกลาย “ทริปกระเป๋าตังหาย” ไปโดยปริยาย

2) “ทริปส้วมสวย” ปีใหม่ 2018 ขับรถไปภูเก็ตกับที่บ้านจาก กทม จำอะไรแทบไม่ได้ (ถ้าไม่ได้ไปดูรูป) ไม่มีปัญหาอะไรทั้งขาไปและขากลับแต่สิ่งหนึ่งที่จำได้ไม่ลืม คือ ณ​ จังหวัดหนึ่งระหว่างทางเจอป้ายกองโจรริมถนนยาวเป็นกิโลเมตร เน้นว่า “กิโลเมตร” ชวนให้แวะปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง โดยชูจุดเด่นที่ “ส้วมสวยที่สุดในประเทศไทย” แน่นอนว่าแวะ และมีคนแวะมากมายยยยย แต่สิ่งที่เจอคือปั้มที่กำลังจะปิดตัวเพราะแทบไม่มีคนเติมน้ำมัน แต่มุ่งไปเข้าส้วม (ที่น่าจะมีแต่รายจ่าย) จนส้วมก็อยู่ในสภาพแย่เต็มทนแล้ว เลยกลายเป็น “ทริปส้วมสวย” ไปอีกและทุกคนก็จะขำหนักมากเมื่อพูดถึง

ล่าสุดเมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาทริปพาเด็กไปเขาใหญ่ก็กลายเป็นอีกทริปที่มีตำหนิถึงแม้ว่าจะมีเด็กน้อยที่เกินเก่งทั้งทริป

ไก่ย่างของโปรด
ลูกม้าแคระเพื่อนใหม่
ขี่ม้าตัวใหญ่

แต่ระหว่างกลับบ้าน ที่จะกลับโดยผ่านอทุยานแห่งชาติเขาใหญ่ไปลงปราจีนบุรี ระหว่างขับไปเข้าอุทยานก็มีรถแซงทางโค้งแถมเป็นเส้นทึบและกินเลนมาในระยะประสานงา แต่ 1) โชคดีเห็นทัน 2) หักหลบแล้วไม่เสียการทรงตัวเพราะไม่ได้มาเร็วมาก 3) ไม่มีรถหรือมอเตอร์ไซด์ซ้าย 4) ทุกคนคาดเข็มขัน เลยรอดมาได้ พร้อมคำด่ามากมาย

“ทริปรอดตาย” น่าจะกลายเป็นคำนิยามของความสนุกที่เกิดขึ้น

น้องลินไม่เคยได้นั่งรถโดยไม่มี car seat เลยตั้งแต่เกิด

อยากรู้ว่าใครเคยมี “ทริป” อะไรกันมาบ้าง?

อลินตา ตอนที่ 0: Welcome to The World

วันนี้ครบ 1 ปีที่หาย Covid-19 หลักจากที่ติดยกบ้านช่วงปลายเดือนกรกฏาคม 2564 (2021) พอดี

เลยอยากบันทึกเรื่องของลูกสาวที่กำลังจะ 2 ขวบเร็ว ๆ นี้ แต่อยากถือโอกาสย้อนไปตั้งแต่วันที่รู้ว่ามีลูกเลยว่ารู้สึกอย่างไรและทำอะไรไปบ้าง แล้วจะทยอยเขียนสรุปพัฒนาการรายปีก่อนวันเกิดด้วยรูปประกอบแบบคำนึงถึง PDPA ของเด็กในอนาคตด้วย (หรือไม่ลูกโตแล้วมาบอกให้ป๋าซ่อน post นะก็ว่ากันอีกที)

เริ่ม …

รู้ตัวว่ามีลูกหลังอย่างเป็นทางการหลังจาก Covid-19 เริ่มเข้าประเทศไทยแล้วประมาณ​ 1 เดือน (2020-03-21) อลินตาอายุประมาณ​ 6 สัปดาห์

~ 6 สัปดาห์

ไม่ได้มีความรู้สึกสับสนเพราะตั้งใจอยู่แล้วแค่มาจุติกลาง Covid-19 พอดีเลย วินาทีแรกที่รู้ก่อนด้วยชุดตรวจก่อนไปหาหมอคือดีใจมาก 🙂

หลังจากนั้นก็ Covid-19 กันยาว ๆ ตัวเองก็ไปช่วยคณะวิศวจุฬาทำ CU-RoboCovid ที่กลายเป็น Open Source ไปแล้ว

~ 8 สัปดาห์

หลังจากไปหาหมอก็นัดไปตรวจทุก ๆ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ อรเองก็ยังตามไปดูงาน CU-RoboCovid ที่โน้นที่นี่ ตอนนั้นคำว่ากลัว Covid-19 ยังไม่รู้จักกันเท่าไหร่เพราะไทยคุมได้ดีมาก ๆ (หรือเราโชคดี)

เริ่มย้ายจากคอนโนที่ลาดพร้าวไปอยู่บ้านที่งามวงศ์วานเพื่อเลี้ยงน้องระยะยาว ส่วนตัวก็ยังคงลุยงาน Covid-19 กับทีม Obodroid และ HiveGround ไปเรื่อย ๆ

~ 11 สัปดาห์

หลังจาก locked down กันมาสักระยะก็ได้ออกไปเที่ยวกันอีกที่ช่วง พค ตอนนั้นอัตราการติดทั้งประเทศก็น้อยมาก ๆ อยู่

เข้าพฤษภาคมก็มีพาไปเที่ยวโน้นนี่อยู่บ้างทั้งแม่และลูก 🙂
~ 15 สัปดาห์
ได้ไปเห็นทางช้างเผือกของจริงครั้งแรกกับหมอทิ (ตัวละครลับแถว Boston ณ วันนี้)
เริ่มต้องใส่ชุดคลุมท้องตั้งแต่มิถุนายน (ไปซ้อมอุ้มลูกคนอื่นสักหน่อย) ขอขอบคุณอุปกรณ์และเสื้อผ้าที่หลาย ๆ คนให้มาด้วยอีกครั้ง
วันเกิดคุณแม่ถึงก่อนคุณลูก 4 เดือน เค้กโดยน้องฝน
~26 สัปดาห์ เริ่มดิ้น ๆ หมอแซวทุกครั้งว่าสูงใหญ่เหมือนพ่อแม่แน่ ๆ (หาเรื่องกันชัด ๆ)
ย้ายจากคอนโดลาดพร้าวไปอยู่บ้านอรอย่างเป็นทางการ
เตรียมตัว Say Hello ~ 33 สัปดาห์ หัวกระโหลกมาเต็ม
วันสุดท้ายที่ Sertis ก่อนลาคลอด
ท้องลายก็มา และอีกสารพัดปัญหาด้านร่างกายและฮอร์โมนของคนท้อง เท้าบวมก็น่ากลัวไม่น้อย
~ 36 สัปดาห์​ นับถอยหลังอีก 13 วัน
ม๊อบ 112 ก็มา

อาทิตย์สุดท้ายก่อนคลอด ก็ยังหาที่เที่ยวพาอรไปก่อนที่จะต้องอยู่บ้านกันยาว ๆ ได้ไปที่เขื่อนขุนด่านปราการชล เลยทำให้น้องชอบเพลงประหยัดน้ำของพี่ว่านแบบฟังทั้งวันอยู่ร่วมเดือนหรือเปล่านะ

เที่ยวที่สุดท้ายก่อนคลอด
ลูบ ๆๆๆ น้องเตะตุ๊บ ๆ ก่อนคลอด 2 วัน

คืนก่อนคลอดฝนตก แล้วน้ำดูท่าจะท่วมบ้านเลยย้ายไปอยู่คอนโดใกล้บ้าน อรจะได้ไม่ลำบากเรื่องห้องน้ำ และเผื่อท่วมเยอะจะได้ไป รพ ง่าย ๆ พอตกดึกก็มีปวดท้องบ้างแต่ไม่แรงมาก ก็ไม่มีอะไรถึงเช้าแต่ก็รีบไป รพ เพราะอาการเข้าเค้า แต่ก็เตรียมเสื้อผ้ามาหมดแล้ว

ด้วยความที่ รพ ใกล้และไม่มีประสบการณ์ (จะมีได้ไง 55) ก็ยังชิลแวะกินข้าวมันไก่ริมถนนเพราะหิวทั้งคู่ก่อนไป รพ

แต่พอไปถึงหมอดูแล้วก็บอกว่าน่าจะวันนี้แหละเย็น ๆ จังหวะนั้นก็เหวอแล้วรีบแจ้งญาติพี่น้อง เปลี่ยนโหมด

หลังจากนั้นหมอก็เริ่มอธิบาย หยังโน้น หยังนั้น หยังนี้ และน่าจะต้องรออีกหลาย ชม เลย อรก็เริ่มปวดท้องมากขึ้น

กลายเป็นว่ารออยู่ไม่นาน อรก็เริ่มปวดท้องคลอด พยาบาลก็มาย้ายไปห้องคลอด เราก็ไปเปลี่ยนเสื้อชิล ๆ เตรียมเข้าห้องตามหมอบอกว่าอีกพักใหญ่

ผ่านไปไม่ถึง 30 นาที … เกือบเข้าไปไม่ทัน … เพราะเบ่งสองทีก็ออกมาเลย 555

เสียงดังสะใจ
Hello World !

เราเจอกันวันที่ 2020-01-11

รักแรกพบที่แท้จริง …