ราคา CX-5 AWD 2016 Minor Change

เมื่อวานไปอู่มาเลยให้เค้าประเมินให้ ตอนนี้เหลือ 350,000 จ้าาา (~150000 km)

in Car | 1 Words

รีวิว Mazda CX-5 2016 Minor Change ครบ 111,111 กิโลเมตร

มารีวิวอะไรปี 2022 อาจจะเป็นคำถามแรกของคนที่เข้ามาเจอ คำตอบง่าย ๆ คือก็ถ้าไม่ได้ใช้นานพอคงรีวิวจริงจังได้ยาก หลักฐานคือ 111,111 km เน่า ๆ ข้างล่าง T-T (ดีเซล AWD)

111,111 km ที่ตั้งใจถ่ายยยย แล้วพินาศ

เลือกรถจาก safety feature ในรถรุ่นเดียวกัน ณ​ ตอนนั้น + คนรอบ ๆ ตัวใช้ Mazda เยอะไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นเพราะว่าราคารถ class เดียวกันอยู่แถว 1.6+ ล้านหมด (ค่อนข้างโชคดีได้ผ่อน 0%)

เข้าเรื่องดีกว่า สรุปโดยรวมคือรถไม่มีปัญหาใหญ่อะไรทั้งที่ใช้ค่อนข้างเยอะ ~20,000 km/ปี และขับไปทั่วทุกสภาพถนน ลุยน้ำ ขึ้นเขา ลุยสวน แต่ไม่ได้หนักแบบวิบาก

จบ … น่าจะโดนด่า จริง ๆ แล้วปัญหาหลักที่เจอไม่ได้อยู่ที่รถแต่เป็นคนและศูนย์บริการ

อันที่โหดสุดคือช่วง 1-2 หมื่นกิโลเมตรแรก รถวิ่ง ๆ อยู่ระบบก็ reset บนทางด่วน แต่ดีที่เครื่องไม่ดับเลยไม่มีอะไรร้ายแรง ด้วยความที่เป็นรถคันแรกเลยไม่แน่ใจว่าต้องจัดการยังไงก็เข้าศูนย์ไป ก็หาอะไรไม่เจอ

แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรจนมีวันหนึ่งขับไปกาญจนบุรีก็เจออาการคล้าย ๆ กันอีก เลยแวะปั้มแล้วลองดูจริง ๆ จัง ๆ ขยับโน้นนี่ดูก็ไปเจอว่าขั้วแบตหลวมทั้งที่ไม่ได้ไปยุ่ง

ถ่ายวีดีโอแจ้งศูนย์ หาตัวช่างที่ดูแล จบที่คำตอบกาก ๆ เลิกรากันไป โทรไปโวย Mazda ประเทศไทยนิดหน่อย

หลังจากนั้นก็ paranoid เรื่องการดูสภาพสายไฟและขั้วต่าง ๆ หลังจากเข้าศูนย์ทุกรอบ

5 ปีที่ผ่าน (ได้รถตอน พฤษภาคม 2560) มีเรื่องหลัก ๆ อยู่ 6-7 จุด

1) เปลี่ยนยางไป 3 รอบ (รอบล่าสุดคือสงกรานต์ที่ผ่านมา)​ ยางมาตรฐานคือ 225/55R19 ที่รู้ที่หลังว่าแพงไม่น้อย และแพงแบบกระโดดมากจาก R17 ของเดิมมาเป็น Toyo แต่เปลี่ยนเป็น Michelin ตลอดหลังนั้น

2) รถรุ่นนี้มีปัญหาน้ำดัน ฟ้องร้องกันเป็นคดีใหญ่โต แต่คันที่ได้มามีประกันเพิ่มและ Mazda เองก็มีการเรียกเข้าศูนย์ไปเปลี่ยนชิ้นส่วนแก้ไขจุดที่มีปัญหาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมายาว ๆ

3) มีอุปกรณ์เป็นเซ็นเซอร์ไอเสียเสียหายในประกันไป 1 ตัวเปลี่ยนได้ไม่มีค่าใช้จ่าย แล้วก็เซ็นเซอร์กันชนที่เพิ่งเสียไปใน post ก่อนหน้า

4) ไฟสูงไม่ทำงานน่าจะเกิดจากโคมไฟหลวม/ตกไป 1 ครั้งตอนขับไปต่างจังหวัดกลางคืนมีความสยองเหมือนกัน แต่เอาเข้าศูนย์ก็แก้ไขได้ถาวร (จนตอนนี้)

5) เปลี่ยนแบตเตอรี่ประมาณ 2 ปีครั้งไปแล้ว 3 ก้อน ก้อนที่ 2 ลองข้างนอกก็ถูกกว่า 30-40%

6) มีอุบัติเหตุงง ๆ 2 ครั้ง ครั้งแรกขับทับเศษยางบนถนนตอนขับเร็วทำให้กระเด็นโดนบังโคลนแตก ครั้งที่ 2 น่าจะโดนคนเข็นรถโดยดึงกระจกข้างเฟืองรูดเลย ทั้ง 2 ครั้งเครมประกันได้ ส่วนเกือบ ๆ นี่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีอะไร เครมอะไรก็ไม่ได้เครมเบี้ยก็ลดมาเรื่อย ๆ ตอนนี้ได้ชั้น 1 ที่หมื่นนิด ๆ

7) ลำโพงดีแต่ logic Bluetooh ไม่ดี ชอบติด ๆ หลุด ๆ เวลาต้องใช้มือถือในรถแต่รวม ๆ 90+% ใช้งานได้

8) ใช้ดีเซลประหยัดน้ำมันใช้ได้อยู่ ช่วงน้ำมันแพงที่ผ่านมาก็ได้อานิสงส์มาด้วย

เน้นฤกษ์สะดวก ไม่มีพวงมาลัย ไม่มีเจิม แถมทะเบียนถูกหวยด้วย (คนข้างบ้านซื้อ)

ตอนนี้โดยรวมก็ยังทำงานได้ดี 3-4 เดือนที่ผ่านมาเริ่มกลับมาขับเยอะ ๆ อีกครั้งทั้งพาที่บ้านไปต่างจังหวัดแบบ full-load 5 คนของเต็มรถ และลุยทำงานเดินทางไกล ๆ ก็ยังทำงานโอเคดี

สำหรับเรื่องราคาขายต่อไม่ต้องเป็นห่วงถามศูนย์กี่รอบได้คำตอบเดิมคือแนะนำให้ถือยาว ๆ Mazda คือการลงทุนโดยแท้ทรูเพราะราคาหายไปเกือบ ๆ 70% มานานแล้ว …

in Car | 26 Words

ประสบการณ์สุดท้ายกำหนดความทรงจำ (หลัก)

หนังสือ Thinking Fast and Slow ประเด็นที่น่าสนใจหลายอย่างหนึ่งในนั้น คือ ประสบการณ์สุดท้ายมักจะเป็นกำหนดความทรงจำหลักที่มีต่อเหตุการณ์นั้น ๆ เช่น ไปเที่ยวทะเล 3 วัน 2 คืนสนุกสุด ๆ ตั้งแต่ออกจากบ้านแล้วดันอาหารเป็นพิษวันสุดท้ายทริปนั้นจะกลายเป็น “ทริปอ้วกแตก” ของทุก ๆ คนในทันทีแทนที่จะเป็นความทรงดี ๆ อันอื่น (แน่นอนว่าไม่ได้ลืมไปเลย แต่ “ทริปอ้วกแตก” จะกลับมาก่อนแน่นอน

ในทางกลับกันถ้าตอนจบเป็นเรื่องปรกติอย่างที่ควรจะเป็น เช่น ขับรถถึงบ้านอย่างปลอดภัยไม่ดึกไม่มีอะไรผิดคาด ความทรงจำก็จะกระจายอยู่ในเหตุการณ์ต่าง ๆ ความลำดับความสำคัญอย่างที่ควรจะเป็น แต่มักจะนำไปสู่การลืมไปว่าไปทำอะไรมาบ้าง หรือหลาย ๆ ครั้งลืมไปเลยว่าเคยไปมาด้วยหรือ

ช่วงหลายปีที่ผ่านมามี “ทริป x” อยู่ 2-3 อัน เช่น

1) “ทริปกระเป๋าตังหาย” ปีใหม่ 2019 ที่จบไม่สวยเพราะกระเป๋าตังดันหล่นหลายไปแบบไม่รู้ตัวจนไปรอหน้าเกตเตรียมขึ้นเครื่องกลับบ้านแล้ว แต่ยังไงดีที่มีเวลาเหลือพอที่จะขอ จนท กลับออกไปหาโดยนั่งรถย้อนทิศกลับไปยังจุดคืนรถ แต่ปรากฏว่าไม่เจอก็แล้วก็ลนลานหาไปเรื่อย ๆ แล้วปรากฏว่าคนขับรถ shuttle สงสัยว่าทำไมลุกลนเลยมาถามว่าเป็นกระเป๋าเราหรือป่าว เราก็สามารถตอบบรรยายได้ถูกเลยได้คืนมาหมด ยกเว้นเงินโดนเอาไปหมดเลย แน่นอนว่าเป็นความทรงจำที่เกือบจะดีแล้วแต่ก็ไม่ดีอยู่ดีเพราะวิธีการพูดของคนขับก็ทำให้รู้ได้ว่าคนเอาเงินไปก็คือคนขับนั่นแหละ ออสเตรเลีย เลยกลาย “ทริปกระเป๋าตังหาย” ไปโดยปริยาย

2) “ทริปส้วมสวย” ปีใหม่ 2018 ขับรถไปภูเก็ตกับที่บ้านจาก กทม จำอะไรแทบไม่ได้ (ถ้าไม่ได้ไปดูรูป) ไม่มีปัญหาอะไรทั้งขาไปและขากลับแต่สิ่งหนึ่งที่จำได้ไม่ลืม คือ ณ​ จังหวัดหนึ่งระหว่างทางเจอป้ายกองโจรริมถนนยาวเป็นกิโลเมตร เน้นว่า “กิโลเมตร” ชวนให้แวะปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง โดยชูจุดเด่นที่ “ส้วมสวยที่สุดในประเทศไทย” แน่นอนว่าแวะ และมีคนแวะมากมายยยยย แต่สิ่งที่เจอคือปั้มที่กำลังจะปิดตัวเพราะแทบไม่มีคนเติมน้ำมัน แต่มุ่งไปเข้าส้วม (ที่น่าจะมีแต่รายจ่าย) จนส้วมก็อยู่ในสภาพแย่เต็มทนแล้ว เลยกลายเป็น “ทริปส้วมสวย” ไปอีกและทุกคนก็จะขำหนักมากเมื่อพูดถึง

ล่าสุดเมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาทริปพาเด็กไปเขาใหญ่ก็กลายเป็นอีกทริปที่มีตำหนิถึงแม้ว่าจะมีเด็กน้อยที่เกินเก่งทั้งทริป

ไก่ย่างของโปรด
ลูกม้าแคระเพื่อนใหม่
ขี่ม้าตัวใหญ่

แต่ระหว่างกลับบ้าน ที่จะกลับโดยผ่านอทุยานแห่งชาติเขาใหญ่ไปลงปราจีนบุรี ระหว่างขับไปเข้าอุทยานก็มีรถแซงทางโค้งแถมเป็นเส้นทึบและกินเลนมาในระยะประสานงา แต่ 1) โชคดีเห็นทัน 2) หักหลบแล้วไม่เสียการทรงตัวเพราะไม่ได้มาเร็วมาก 3) ไม่มีรถหรือมอเตอร์ไซด์ซ้าย 4) ทุกคนคาดเข็มขัน เลยรอดมาได้ พร้อมคำด่ามากมาย

“ทริปรอดตาย” น่าจะกลายเป็นคำนิยามของความสนุกที่เกิดขึ้น

น้องลินไม่เคยได้นั่งรถโดยไม่มี car seat เลยตั้งแต่เกิด

อยากรู้ว่าใครเคยมี “ทริป” อะไรกันมาบ้าง?

เสีย 1 ช่างขอเปลี่ยน 4

เรื่องมีอยู่ว่าเซนเซอร์อัลตราโซนิก (เสียงความถี่สูงมาก) ตรงกันชนหน้าขวาของรถมาสด้า CX-5 ที่ขับอยู่เสียไป 1 ตัวทำให้ตัวรถตัดระบบเตือนการชนทั้งหมด ทำให้เวลาถอยหรือเลี้ยวในที่แคบมาก ๆ ทำแทบไม่ได้เพราะ สมองโดนฝึกการกะระยะด้วยเซนเซอร์ไปแล้ว

หน้าตาเซนเซอร์เตือนการชนหน้ารถ

หลังจากที่ติด ๆ ดับ ๆ อยู่พักนึงก็ทนไม่ไหวละไปศูนย์ให้จัดการดีกว่า หลังจากนัดวันเข้าไปช่างก็ไปตรวจอยู่นานแสนนานแล้วก็กลับมาบอกว่าเสียครับ

“ครับพี่” รถมันก็บอก แต่ไม่เป็นไรเข้าใจได้

ประเด็นอยู่ที่ช่างมาแจ้งว่าจากการตรวจสอบพบว่าเสีย 1 ตัวตามที่ลูกค้าบอก (Ok) แต่จะขอสั่งมาเปลี่ยนทั้ง 4 ตัวนะครับ (อิหยังวะ) เคลิ้ม ๆ อยู่ตื่นเลย

เข้าสู่ช่วงถาม-ตอบยาว ๆ

1) ทำไมต้องเปลี่ยนหมดครับ? -> ช่างบอกว่ากลัวจูนกับอีก 3 ตัวไม่ได้ (หืมมมม)

2) ทำไมจะจูนไม่ได้ครับ? -> กลัวจูนไม่ได้ พร้อมอธิบายความเชื่อแนวไสยศาสตร์ (เอาจริงดิ!)

3) ตัวละเท่าไหร่ครับ? -> ตัวละ 2,000 พันจะขอเปลี่ยนเผื่ออีก 3 ตัว จะให้พี่ช่วยความกลัวช่างอีก 6,000 (เอาจริงดิ!!)

4) เอารหัสสินค้ามาดูหน่อย -> หาคู่มือการเปลี่ยนให้ดูต่อหน้าเลย (ช่างเหมือนจะเหวอ ๆ หน่อย)

5) หว่านล้อมช่าง (มันใช่เหรอฟระ) ว่าเชื่อผมผมเรียนมา ว่าเซ็นเซอร์แบบนี้มันไม่ซับซ้อน เปลี่ยนให้ผมอันเดียวพอ (นะๆๆๆ)

6) ช่างก็ยังงอแงต่อ (เอาจริงดิ!!!)

7) เลยตัดบทว่า เอาตัวเดียวนี่แหละสั่งอะไหล่เลย ถ้ามาเปลี่ยนแล้วใช้ไม่ได้ค่อยสั่ง 3 ตัวที่เหลือ

8) ช่างจำยอมทำตามเพราะหมดช่องอ้างแล้ว (แต่ก็เริ่มเขวว่าจะโดนช่างหยามมั้ยถ้ามันต้องเปลี่ยน 4 ตัว – ก็คิดแผนต่อสู้ไว้แล้ว 555)

9) รอไป 2 อาทิตย์อะไหล่มา ไปเปลี่ยน 1 ตัวใช้ได้ตามปรกติ … ประหยัดไป 6,000 บาท

10) ศูนย์โทรมาเก็บประเมินก็บ่นยาว ๆ ไปแบบข้างบน

นิทานเรื่องนี้สอนอะไรหละ …

ตำแหน่งเซนเซอร์มีข้างหน้า 4 หลัง 4 อันนี้ช่างก็มั่ว (น่าจะลืม) ว่ามีหน้า 2 หลัง 2 จนต้องถามย้ำอยู่หลาย ๆ ทีว่ายังไงกันแน่ หายไปสักพักกลับมาบอกว่า 4-4 ครับพี่ขอโทษด้วย (╯°□°)╯︵ ┻━┻

แถมรูปเซนเซอร์

จาก https://www.ebay.com/itm/303887657176
in Car | 18 Words